วันนี้มีเวลานั่งซดคาปูชิโน่เย็นแก้วใหญ่หลังมื้อเที่ยงในร้านแกแฟใกล้สำนักงาน ก็นั่งคิดอะไรไปเพลินๆ แล้วก็มีความคิดแว๊บเข้ามาในหัว ก็เกิดการเปรียบเทียบระหว่างมนุษย์เดินดินกินข้าวแกงอย่างผมกับเจ้าเครื่องคอมพิวเตอร์หัวไบรท์ตั้งแต่เกิดว่าเหมือนกันตรงไหน
คิดๆ ดูแล้วคอมพิวเตอร์คงจะสร้างเลียนมนุษย์เรานั่นเอง เป็นการเลียนแบบในเรื่องระบบความคิด และระบบอัตโนมัติ
เหมือนกันอย่างไร เรื่องความเร็วครับ คอมพิวเตอร์คิดคำนวณอย่างรวดเร็ว
คนก็คิดเร็ว ปากเร็ว มือเท้าเร็ว ยิ่งเวลาหงุดหงิดๆ ละก็นะ
เรื่องความจำ คอมพิวเตอร์จะเก็บข้อมูลอย่างถาวรไว้ที่ ฮาร์ดดิสก์ และพักข้อมูลชั่วคราวไว้ที่แรมเพื่อสะดวกต่อการเรียกใช้
คนเราเก็บข้อมูลไว้ที่สมอง เรื่องบางเรื่องก็เก็บไว้อย่างถาวรลบยังไงก็ลบไม่ออก ลืมยังไงก็ลืมไม่ลง แต่กับบางเรื่อง พยายามจดจำไว้อย่างดี พอถึงเวลาต้องใช้กับนึกไม่ออกซะงั้น เป็นอะไรที่ซับซ้อนครับ บางทีเผลอเดินสะดุด ก็ลืมซะแล้ว
เวลาที่สมองปลอดโปร่งก็จำอะไรได้แม่น คิดอะไรก็เร็ว แต่พอหิวขึ้นมาข้อมูลก็ไปถูกพักไว้ที่ท้องซะงั้น ยิ่งถ้าหงุดหงิดขึ้นมา โมโหโกรธาหน้ามืด คราวนี้แหละสมาธิแตกกระเจิง ดั่งธาตุไฟเข้าแทรก ควันออกหูขึ้นมา ก็เกิดอาการแฮงก์เหมือนเครื่องโดนไวรัสเข้าสิง
มนุษย์ถึงจะคิดช้า แต่ก็มีการนำสิ่งสำคัญที่เรียกว่าความรู้สึกใส่เข้าไปในขั้นตอนประมวลผลด้วย ถึงความแม่นยำจะไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ก็สามารถประยุกต์ขั้นตอนและทำได้มากกว่าคอมพิวเตอร์
คอมพิวเตอร์ทำงานอย่างแม่นยำภายใต้ขอบเขตที่ถูกกำหนดไว้ด้วยระบบงานที่ออกแบบมาเท่านั้น บางอย่างที่นอกเหนือจากนี้ ก็ทำไม่ได้ซะแล้ว แล้วจะทำไงดีล่ะคราวนี้
ก็เพราะด้วยเหตุนี้แหละครับ โปรแกรมเมอร์ตัวน้อยๆอย่างผมถึงได้มีงานทำมาจนถึงทุกวันนี้ ถ้าโปรแกรมสำเร็จรูปตอบโจทย์ได้ทุกอย่าง ทุกหน่วยงานก็คงจะสั่งซื้อมาใช้โดยไม่ต้องลังเล แต่ผู้บริหารบางท่านเขามีความคิดที่กว้างกว่านั้นครับ การบริหารงานมีการเปลี่ยนแปลงให้ดีขึ้นตลอดเวลา และเมื่อไปยึดติดอยู่กับซอร์ฟแวร์ที่นำมาใช้ จะเกิดอะไรขึ้นล่ะครับ
โปรแกรมบางตัวราคาหลักล้าน จะทิ้งขว้างก็เสียดาย จะใช้ต่อก็เหมือนไม่ตอบโจทย์ซะแล้ว
แล้วการจ้างโปรแกรมเมอร์มานั่งประจำออฟฟิศมันดีจริงหรือ???
ก็ไม่ใช่ว่าจะดีกว่าโปรแกรมสำเร็จรูปหรอกครับ เพียงแต่สั่งได้ปรับได้แก้ได้ ตามใจเรา แต่ก็เพราะมันยืดหยุ่นเกินไป จนมาตรฐานจะหย่อนยานอยู่แล้วนี่แหละครับ ทำให้เกิดเรื่องปวดหัวได้ไม่เว้นแต่ละวัน เพราะแก้ไขไปแล้วไม่มีฝ่ายทดสอบระบบน่ะครับ พอทดสอบโดยรวมผ่านก็นำไปใช้ แต่พอยูสเซอร์ใช้งานมากเข้าก็เจอบั๊กจนได้
ทุกวันนี้ก็ต้องพยายามให้ดีที่สุดครับ ให้มันมีบั๊กให้น้อยที่สุด จะได้อยุ่รอดปลอดภัยต่อไป
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น