ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

การพูด กับการเขียน การสื่อสารที่ประมวลผลต่างกัน

หลายคนมักจะสงสัยว่าทำไมผมชอบโพสต์เรื่องราวต่างๆบนเฟซบุ๊กของเพื่อน ทั้งที่บางทีก็คุยกันไปเลยก็ได้ไม่ต้องเสียเวลาพิมพ์ ไม่ต้องให้คนอื่นได้เห็นหรอก

สำหรับเรื่องที่ไม่ควรให้คนอื่นรู้ ผมก็ไม่พิมพ์ครับแต่เรื่องที่พิมพ์ที่โพสต์เป็นเรื่องที่อยากสื่อให้คนอื่นได้อ่านด้วยบ้างก็เท่านั้นเอง

ส่วนเรื่องที่ทำไมไม่พูดจะได้สื่อสารกันซึ่งๆหน้า

ผมอยากบอกว่าการพูด กับการเขียน เป็นการสื่อสารที่ให้ผลลัพธ์ต่างกัน
เวลามีคนพูดอะไรให้ผมฟัง ผมจะคิดตามคนพูด
แต่เวลาที่ผมได้อ่านผมจะ คิดตามสิ่งที่ผมเข้าใจ เรื่องที่จะเข้าใจถูกหรือผิดไม่ใช่ประเด็น แต่สำคัญตรงที่เราได้คิดเอง ได้จินตนาการเองได้มีสมาธิในการคิดแย้งกับข้อความที่อ่าน


มันก็เหมือนกับการประมวลผลของโค๊ด JavaScript และ PHP ที่ทำงานกันคนละที่ภาษาหนึ่งอยู่ฝั่งเครื่องผู้ใช้ อีกภาษาหนึ่งอยู่ฝั่งเครื่องผู้ให้บริการ Server จะใช้ทรัพยากรต่างกัน และบางเรื่องก็มีสิ่งที่ต้องให้คิดมากกว่านั้น

เช่นเรื่องของวันที่ เวลาของเครื่องเรากับเซิร์ฟเวอร์ย่อมไม่ตรงกันอยู่แล้ว

ยิ่งเซิร์ฟเวอร์อยู่ต่างประเทศ หรือต่อให้ปรับเวลาชดเชยให้ตรงกัน แต่ถึงกระนั้นก็อาจจะคลาดเคลื่อนในระดับนาที หรือวินาทีอยู่ดี เผลอๆก็อาจจะมีบางครั้งที่เครื่องเราเองตั้งเวลาผิดก็อาจจะสื่อสารกันผิดพลาด

สำหรับเรื่องวันที่นี้ผมจึงอยากจะแนะนำว่าถ้าต้องใช้อ้างอิงจริงๆ ให้เก็บทั้งเวลาบนเครื่องผู้ใช้และเวลาในเซิร์ฟเวอร์ไปพร้อมๆกัน จะได้ไม่เกิดอาการว่าฉันส่งไปเมื่อ 10.00น. แล้วนี่นาจะส่งช้าได้ยังไงล่ะ แต่เวลาในเครื่องเซิร์ฟเวอร์ปรากฏว่าเป็น 10.02น. ซะงั้น

หรืออีกกรณีคือ เธอส่งมาเมื่อไหร่?
ก็ฉันส่งไปประมาณวันที่ 11 นะ!
ไม่มีนะที่เห็นก็มีแต่ของวันที่ 12 ที่ส่งมารายการเดียวของเดือนนี้


สรุปแล้วเก็บเวลาของเซิร์ฟเวอร์เป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้วเพราะทุกคนจะได้ค่าเวลาเดียวกัน แต่ถ้าเก็บวันที่จากเครื่องผู้ใช้ด้วย เราก็จะได้อ้างอิงว่า "นี่ไงนาฬิกาเธอตั้งไม่ตรงนะ มันเป็นวันเวลานี้ต่างหาก"

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

การแชร์สแกนเนอร์ ถึงทำไม่ได้แต่ก็มีวิธีช่วยประหยัดขั้นตอนการทำงาน

"พี่ครับขอใช้เครื่องพี่สแกนเอกสารหน่อยครับ" "พี่ครับขอสแกนอีกสักสองแผ่นครับ" "พี่ครับพอดีมีเอกสารต้องสแกนเพิ่มน่ะครับ" ทุกครั้งที่ต้องสแกนเอกสารเป็นไฟล์เก็บไว้ในคอมพิวเตอร์ ผมจะต้องลุกไปขอใช้เครื่องพิมพ์แบบ All-In-One ของพี่โจ้ทุกครั้ง บางครั้งก็เกรงใจแกครับ เห็นกำลังใจจดใจจ่ออยู่กับงานตรงหน้า ไหนจะต้องตอบคำถามคำโน้นคนนี้ทาง MSN บ้าง Facebook บ้าง ^___^ พอไปขอใช้เครื่องทีไรก็ดูแกจะไม่สบอารมณ์เท่าไหร่ พยายามค้นหาวิธีแชร์สแกนเนอร์จากในอินเตอร์เน็ตอยู่หลายวัน ก็ไม่เจอวิธีที่จะสามารถแชร์สแกนเนอร์ให้เครื่องอื่นได้ใช้งานได้เลย แชร์ได้แค่ให้สั่งพิมพ์จากเครื่องอื่นๆได้เท่านั้น สุดท้ายก็เลยตัดสินใจใช้เทคนิคเล็กๆ น้อยๆ ที่ได้พบเจอมาใช้ประหยัดเวลา และไม่รบกวนการทำงานและสนทนาของพี่โจ้ ได้วิธีนึง นั่นก็คือ ตั้งค่าสแกนเนอร์ให้บันทึกอัตโนมัติ ไว้ในโฟลเดอร์ที่กำหนด แล้วก็ทำการแชร์โฟลเดอร์เครื่องพี่โจ้ทิ้งไว้ซะเลย 1. ตั้งค่าให้สแกนอัตโนมัติเมื่อกดปุ่มสแกน 2. กำหนดให้บันทึกลงโฟลเดอร์ที่แชร์ไว้แล้ว (แชร์โฟลเดอร์เก็บเอกสารสแกนของคอมฯเครื่องนั้นไว้) 3. ...

ร้อยละ ทศนิยม 2 ตำแหน่งบวกคืน ไม่เท่ากับ 100 และ ปัญหาการคำนวณเลขทศนิยม เมื่อปัดเศษแล้วค่าที่บวกคืนไม่เท่าเดิม

กรณีนี้เป็นการทดสอบคำนวณเลขที่ต้องหารครึ่ง ตัวอย่างเช่น 2.33 / 2 = 1.165 กรณีนี้ถ้าเก็บค่านี้ในฐานข้อมูลที่กำหนดให้มีทศนิยมเพียง 2 หลัก ในฟิลด์ 2 ฟิลด์ซึ่งแต่ละฟิลด์จะถูกปัดขึ้นเป็น 1.7 เมื่อนำมาบวกกลับ 1.17 + 1.17 = 2.34 ถ้าอย่างนั้นเราก็ต้องกำหนดให้ฟิลด์ที่ใช้เก็บข้อมูลสามารถเก็บเลขทศนิยมได้หลายๆตัว ก็จะเก็บเลขทั้งสามหลักไว้ในฐานข้อมูลเลย 1.165 + 1.165 จะได้ 2.33 พอดี แต่ตอนเราแสดงรายงาน ก็จำเป็นจะต้องแสดงเลขทศนิยมเพียงแค่ 2 หลักอยู่ดี แล้วเราจะทำอย่างไรล่ะทีนี้ ก็เก็บมันเป็นเลขทศนิยมเต็มจำนวนซะแล้วตอนแสดงก็ต้องปัดเศษอยู่ดี เพราะค่า 1.165 ถ้าใช้ฟังก์ชั่นปัดเศษลง ก็จะเหลือ 1.16 แต่ถ้าปัดขึ้นก็จะเป็น 1.17 ซึ่งตัวเลขทั้งสองตัว เมื่อนำมารวมกัน ยังไงๆ ก็ไม่เท่ากับ 2.33 อยู่ดี (1.16+1.16 = 2.32,    1.17+1.17 = 2.34 ) อีกตัวอย่างนึงครับเป็นการถอด VAT ราคาสินค้า การคิดค่าทศนิยม แล้วผลรวมเพี้ยน เนื่องจากการปัดเศษ แล้วยอดเกินบ้าง ขาดบ้าง ตัวอย่างการถอด VAT ซื้อของมา 573.50 บาท ถอด VAT ออกมาได้ (573.50*7) / 100 = 40.145 ราคาสินค้า จะได้เป็น 573.50 - 40.14...

เมื่อโปรแกรมเมอร์ไม่ชอบเขียนโค้ดอีกต่อไป

ในวันที่จิตใจเราเลือกหนทางใหม่ ในวันที่ทุกอย่างยังสับสนวุ่นวายเต็มหัว แต่สิ่งน่ากลัวไม่ใช่ "ทางเลือก" แต่มันคือ "ทางรอด" บางทีมันก็ยากนะ ที่จะตัดสินใจว่าสิ่งที่เลือกดีที่สุดสำหรับเราแล้วหรือไม่!! เพราะอนาคตเป็นสิ่งที่คาดเดาได้ยากเหลือเกิน แม้มันจะมีรูปแบบที่ไม่แตกต่างกันนัก และพอจะคาดเดากรรมที่ตามมาก็ตามที และเมื่อวันนั้น วันที่จะต้องตัดสินใจ มาเร็วกว่าที่คิด เราอาจจะไม่ทันตั้งตัวเลยสักนิด ความคิดที่เคยเชื่อมั่นอาจจะสั่นคลอนลงอย่างง่ายดาย ความฝันที่ไม่เคยเริ่ม มันก็เป็นได้แค่ "ความเพ้อฝัน"

PHP CI MANIA